Follow Me

KT.311 ที่สังขละบุรี ดูแลด้วยปุ๋ยธรรมชาติ 17 ปี ยิ่งแก่น้ำยางยิ่งเพิ่ม


หมอกยามเช้าลอยละล่องเหนือลำน้ำซองกาเรีย อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี เป็นฉากหลังที่งดงามในการต้อนรับอาคันตุกะพิเศษ คุณขำ นุชิตศิริภัทรา เจ้าของสายพันธุ์ยางพาราชื่อดังจากจังหวัดตรัง ที่เดินทางไกลมาเยี่ยมเยียนสวนยางพาราของ คุณรณวัฒน์ หรือ “พี่ใหม่” ลูกศิษย์ผู้ที่เคยเดินทางไปฝากตัวขอความรู้เรื่องพันธุ์ยางเมื่อเกือบ 20 ปีก่อน


👉จากสวนมะม่วงสู่ทางเลือกที่มั่นคง: การเดินทางไกลกว่าพันกิโลเมตร

ภาพสวนยางที่อุดมสมบูรณ์ช่วยกลางเดือนธันวาคม มีจุดเริ่มต้นมาจากความเจ็บปวดในอดีต พี่ใหม่เล่าให้ลุงขำฟังขณะเดินชมสวนว่า เดิมทีเขาเป็นเกษตรกรชาวสวนมะม่วงที่ต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนของรายได้ เก็บเกี่ยวได้เพียงปีละครั้งและต้องลุ้นราคาอย่างหนัก เขาจึงตัดสินใจพลิกผืนดินในเขตหมู่ 3 ตำบลหนองลู ให้กลายเป็นสวนยางพาราด้วยเป้าหมายที่ชัดเจนคือ “รายได้สม่ำเสมอ 8 เดือนในหนึ่งปี”


ในช่วงที่ความรู้เป็นศูนย์ พี่ใหม่ไม่ยอมแพ้ เขาเดินทางไปทั่วประเทศ ตั้งแต่เข้าหาเกษตรอำเภอ ไปมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จนตระเวนไปถึงถิ่นยางภาคใต้ ทั้งชุมพร นครศรีธรรมราช และไปจบที่จังหวัดตรัง จนได้พบกับ “ลุงขำ” บทสนทนาในวันนั้นเปลี่ยนชีวิตเขาไปอย่างสิ้นเชิง 


แม้ตอนแรกจะตั้งใจปลูกพันธุ์ RRIM 600 ตามกระแส แต่ลุงขำกลับแนะนำสายพันธุ์ KT. 311 (พันธุ์ยางนายขำตรัง) โดยให้เหตุผลเรื่องความทนทานและผลผลิตที่ยอดเยี่ยม แม้ราคากล้าพันธุ์จะสูงกว่าพันธุ์ทั่วไปถึงเท่าตัว แต่พี่ใหม่เลือกที่จะเชื่อมั่นใน “พันธุกรรม” และการลงทุนระยะยาว




👉ความใส่ใจตั้งแต่ก้าวแรก : การอนุบาลและระบบนิเวศริมน้ำ

ลุงขำเดินชมลักษณะเด่นของ KT. 311 ในสวนของพี่ใหม่ด้วยความภูมิใจ สายพันธุ์นี้มีจุดเด่นที่ ลำต้นสูงตรง แข็งแรง และทนทานโรค  ซึ่งเหมาะกับสภาพพื้นที่สังขละบุรีที่เป็นเนินเขาสูงชัน พี่ใหม่เล่าเสริมถึงเทคนิคที่ทำให้ยางรอดตายเกือบ 100% คือกระบวนการ “อนุบาล” อย่างประณีตตั้งแต่วันที่กล้าพันธุ์จาก จ.ตรังเดินทางมาถึง โดยการเตรียมโรงเรือน จัดวางแบบสลับฟันปลาเพื่อให้คนเดินผ่านได้โดยไม่โดนใบยาง พักฟื้น 5-7 วันก่อนลงปลูกในหลุมที่เตรียมไว้ล่วงหน้า

นอกจากความแข็งแรงของสายพันธุ์แล้ว สภาพภูมิศาสตร์ยังเป็นตัวเสริมชั้นดี สวนยางแห่งนี้ล้อมรอบด้วยขุนเขาและติดกับแม่น้ำซองกาเรีย อยู่เหนือเขื่อนวชิราลงกรณ์ ความชื้นและไอน้ำจากแม่น้ำในช่วงเช้าช่วยให้เปลือกยางนิ่ม กรีดง่าย และน้ำยางไหลได้ดีเป็นพิเศษ


👉ความมหัศจรรย์ของ KT 311: ยิ่งแก่ยิ่งให้ผลผลิตล้น

เมื่อเดินลึกเข้าไปในโซนต้นยางอายุ 17 ปี ลุงขำต้องประหลาดใจกับตัวเลขผลผลิต พี่ใหม่พบว่าในขณะที่พันธุ์ RRIM 600 ให้ผลผลิตนิ่งและคงที่เมื่ออายุมากขึ้น แต่ KT. 311 กลับให้น้ำยางเพิ่มขึ้นแบบขั้นบันไดอย่างต่อเนื่อง จากที่เคยแบ่งล็อคให้คนงานกรีด 11 ครัว (11 ล็อค) ปัจจุบันพื้นที่เท่าเดิม ต้นเท่าเดิม แต่ปริมาณน้ำยางมากจนต้องขยายการจัดการเพิ่มเป็น 17 ครัว นับเป็นการเพิ่มพื้นที่ปลูกโดยอัตโนมัติผ่านการเลือกสายพันธุ์ที่ถูกต้องเพียงครั้งเดียวแต่เก็บกินได้ยาวนาน








เคล็ดลับ “ปุ๋ยธรรมชาติ” และทำยางแผ่นคุณภาพ

สิ่งที่ลุงขำให้ความสนใจเป็นพิเศษคือ พี่ใหม่จัดการสวนโดย “ไม่ได้ใส่ปุ๋ยเคมีเลย” แต่ใช้วิธีตัดหญ้าให้หมักหมมเป็นปุ๋ยธรรมชาติรอบโคนต้นตามแนวทางโครงการหลวง ลุงขำถึงกับเอ่ยปากว่า

นี่ขนาดไม่ใส่ปุ๋ย ผลผลิตยังล้นขนาดนี้ ถ้าได้รับการบำรุงตามสูตรที่เหมาะสม ผลผลิตจะพุ่งสูงขึ้นได้อีกมหาศาลแน่นอน

คุณภาพน้ำยางที่ได้ยังมีค่าเปอร์เซ็นต์ยางแห้ง (DRC) สูง พี่ใหม่จึงยกระดับจากการทำยางก้อนถ้วยมาเป็น “ยางแผ่นดิบ” แม้จะเหนื่อยกว่าแต่คุ้มค่า เพราะไม่มีการหักค่าความชื้น ทำให้เขามีเงินเก็บมากขึ้น แม้ในช่วงที่ราคายางตกต่ำกิโลกรัมละ 30 กว่าบาท เขาก็ยังอยู่ได้อย่างมั่นคงเพราะต้นทุนการผลิตที่ต่ำ

ผมขนยางแผ่นลงเรือไปขึ้นฝั่งและใช้รถกระบะคอกบรรทุกยางไปขายที่สหกรณ์กองทุนสวนยางทองผาภูมิ เจ้าหน้าที่ที่สหกรณ์ถามตลอดว่าทำไปได้ยางแต่ละรอบเยอะจัง ปลูกยางพันธุ์อะไร ผมก็บอกไปปลูกพันธุ์ลุงขำ จนคนที่สหกรณ์รู้จักพันธุ์ยางลุงขำดี











👉บทสรุปแห่งความยั่งยืน

วันนี้สวนยางพาราของพี่ใหม่ไม่ได้มีเพียงแค่ต้นยาง แต่กลายเป็นระบบนิเวศที่ยั่งยืน มีทั้งไม้พยุง ตะเคียน ไม้สัก และไผ่ ที่ปลูกเสริมเพื่อสร้างความหลากหลาย การมาเยือนของลุงขำในครั้งนี้จึงไม่ใช่เพียงการมาเยี่ยมชมสวน แต่เป็นการมาเห็นผลลัพธ์ของความตั้งใจจริงที่พิสูจน์แล้วว่า หากเริ่มต้นด้วยความรู้ เลือกสายพันธุ์ที่ตอบโจทย์อย่าง KT. 311 และมีการจัดการที่เอาใจใส่ เกษตรกรสวนยางพาราสามารถสร้างความมั่งคั่งที่ยั่งยืนท่ามกลางขุนเขาและสายน้ำได้อย่างแท้จริง







แสดงความคิดเห็น

no

ชื่อ

อีเมล *

ข้อความ *