มีคนมาถามผมเยอะมากว่าสถานการณ์ราคายางตกต่ำอย่างที่เป็นอยู่นี้
ชาวสวนยางเดือนร้อนกันมากไหม เพราะเห็นข่าวอึกทึกครึกโครมของพี่น้องชาวสวนยางประท้องปิดถนน ปิดทางรถไฟ
เพียงเรียกร้อง กดดันรัฐบาลให้เข้ามาช่วยเหลือด้วยด้านราคา
และแนวโน้มจะเห็นความรุนแรงมากยิ่งขึ้น เพราะรัฐบาลไม่สนองตามข้อเสนอของชาวสวนยาง
แต่ส่วนตัวผมแล้ว
ไม่อยากจะแสดงความคิดเห็นเรื่องราคายางมากนัก
เพราะวันนี้ต้นทุนของชาวสวนยางไม่เหมือนกัน
เพราะการจัดการสวนยางแต่ละคนไม่เหมือนกัน
ยิ่งถ้ามองเรื่องสายพันธุ์ยางด้วยแล้วต้นทุนต่างกันแน่นอน เพราะพันธุกรรมยางคือ หัวใจของการปลูกยาง
ดังนั้นต้นทุนของคนที่ปลูกยางพันธุ์ดีให้ผลผลิตสูงๆ ย่อมต่ำกว่าคนที่ปลูกยางพันธุ์เก่าให้ผลผลิตต่ำ
วันนี้ถ้าจะแก้ปัญหาเรื่องราคายางตกต่ำอย่างยั่งยืน อย่าไปแก้ที่กลางน้ำ ปลายน้ำอย่างเดียว แต่ต้องแก้กันที่ต้นน้ำ ซึ่งก็คือเรื่องพันธุกรรมยาง
ถ้าพี่น้องชาวสวนยางหันมาปลูกยางพันธุ์ใหม่ให้ผลผลิตสูง แทนพันธุ์เดิม หรือ พันธุ์ RRIM 600 ซึ่งเป็นพันธุ์เก่าที่ปลูกกันมา 30-40 ปี แล้ว
แต่พันธุ์ใหม่ๆ
ให้ผลผลิตมากกว่าพันธุ์ 600 มากกว่า 2-3 เท่า
ยังไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควร เรายังโค่นยางพันธุ์เก่าเพื่อปลูกยางพันธุ์เดิมๆ
อยู่
ขณะที่ต่างประเทศมีการพัฒนาพันธุ์ยางรุดหน้านำเมืองไทยไปมาก อย่างมาเลเซีย เข้ามีสายพันธุ์ยางดีๆ ผลผลิตสูงๆ หลายพันธุ์ แต่กฎหมายเกี่ยวกับพันธุ์ยางของเขาค่อนข้างเข้มงวด ห้ามนำออกจากประเทศ แต่ก็มีการนำออกมาขาย และทำพันธุ์ในเมืองไทยอย่างกว้างขวาง แต่ผู้ซื้อต้องใช้พิจารณาให้ดี เพราะไม่มีใครรับรองเรื่องสายพันธุ์ว่าเป็นของจริงหรือของปลอม
แม้แต่ประเทศจีนเขาก็มียางพันธุ์ใหม่ที่ให้ผลผลิตสูงมากกว่า 500 กก./ไร่/ปี
แนวทางในการปลูกสร้างสวนยางตอนนี้ก็คือ
เราต้องเปลี่ยนพันธุ์ยางเก่าในส่วนที่แก่ให้ผลผลิตต่ำ แล้วลงทุนปลูกยางใหม่ให้ผลิตสูง
อย่างของผมเองสวนยางแปลงเก่าๆ อายุ มากกว่า 30 ปี
ผมทยอยโค่นทิ้งแล้วปลูกยางพันธุ์ KT.311 ซึ่งเป็นพันธุ์ยางของผมเองทั้งหมด ให้ผลผลิตสูงมากกว่า 500 กก./ไร่/ปี ต้านทางโรคสูง
น้ำยางมากกว่ายางพันธุ์ 600 2 เท่าขึ้นไป ผมปลูกมาแล้วกว่า 30 ปี และมีชาวสวนยางทั่วประเทศนำไปปลูกอีกจำนวนมาก
แต่ไม่ได้หมายความว่าผมให้ชาวสวนยางต้องเปลี่ยนมาปลูกพันธุ์ KT. 311 แต่ปลูกพันธุ์ใหม่ๆ
ที่ให้ผลผลิตสูงพันธุ์ไหนก็ได้ แต่พันธุ์ 600 ไม่สมควรปลูกแล้ว
เพราะน้ำยางน้อยและอ่อนแอต่อโรค
ส่วนผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้นจากการปลูกยางใหม่
คือง่ายๆ ถ้าปลูกยางพันธุ์เก่า น้ำยาง 1 กก.ขายได้ 60 บาท และถ้าพันธุ์ใหม่ที่ให้น้ำยางมากกว่า 600 2 เท่าตัวเท่ากับว่าจะได้เงินเพิ่มเป็น 120 บาทขึ้นไป
ในพื้นที่ปลูกยางเท่าเดิม การดูแลเหมือนเดิม ต้นทุนก็ต่ำกว่า แต่ได้กำไรมากกว่า
เท่านี้เราก็ไม่ต้องกังวลเรื่องราคายางตก
สำหรับผมราคายางถ้าไม่ต่ำกว่า 60 บาท ชาวสวนยางยังอยู่ได้
ถ้า 70 บาทขึ้นไปสบายเลย แต่อย่างไรราคายางในอนาคตไม่น่าจะต่ำกว่า 60 บาทแน่นอน
สำหรับเทคนิคการปลูกยางพันธุ์ดีให้โตไว ก็มีวิธีการอยู่ ซึ่งผมใช้และเคยนำมาบอกเล่ากันผ่านคอลัมน์นี้
ถ้าอยากปลูกยางแบบ 4 ปีกรีด ก็ต้องปลูกยางถุงใหญ่ สมมุติเราจะปลูกยางปีหน้า ปีนี้เราก็นำยาง 2 ฉัตรมาปลูกในถุงใหญ่ขนาดกว้าง 6 นิ้ว ลึก 18 นิ้วก่อนเป็นเวลา 1 ปี ต้นกล้ายางจะใหญ่ขนาด 5-6 ฉัตร รากก็จะเยอะแข็งแรง เมื่อนำไปปลูกต้นยางจะโตไวเลยอัตราการรอดสูงแทบไม่ต้องปลูกซ่อมเลย ต้นยางจะโตได้ทันที ไม่ได้รับผลกระทบเมื่อเจอฝนทิ้งช่วง
แต่ถ้าจะให้ดีก็ควรใช้รถแบ็คโฮเล็กขุดหลุมยางเลย ขุดหลุมใหญ่ เท่ากับเป็นการพรวนดินให้ร่วนซุย รากจะสามารถเดินและ เจริญเติบโตได้เร็ว ต้นยางก็โตไว สามารถเปิดกรีดได้เร็ว
เมื่อปลูกยางพันธุ์ดี ผลผลิตสูง
ทนทานต่อโรคยาง มีเทคนิคการปลูกให้ยางโตไว เช่น การปลูกยางถุงใหญ่ ขุดหลุมใหญ่
สามารถเปิดกรีดได้เร็ว
เท่านี้พี่น้องชาวสวนยางก็ไม่ต้องกังวลเรื่องราคายางตกต่ำแล้ว
ผู้อ่านรายใดสงสัย
หรือต้องการคำแนะนำปรึกษาโทรมาคุยกับผมได้ที่ 09-1979-9999
previous article
บทความใหม่กว่า
ไม่มีความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น