ด้วยการที่ผมอยู่ในอาชีพสวนยางมานาน
จึงมีคนมาถามผมมากว่าสถานการณ์ราคายางอย่างทุกวันนี้ได้รับผลกระทบมั๊ย
เพราะต้นทุนการดูแลสวนยางของเกษตรกรสูงขึ้นทุกวันๆ แต่ราคายางกลับลดลงสวนทางกับต้นทุนทุกครั้งที่มีคนถามผมก็จะตอบไปตามความเป็นจริงว่า “ผมไม่กระทบ...???”
อย่างเมื่อล่าสุดที่ผ่านมาผมไปขึ้นเวทีเสวนาที่
จ.สตูล โดยคุณอุทัย
สอนหลักทรัพย์ เชิญไปพูดบนเวที ผมก็พูดถึงเรื่องราคายางว่าผมไม่ได้รับผลกระทบ
เพราะอะไรนั่นหรือครับ...!!!
ก็เพราะผมปลูกยางพันธุ์ดีที่ให้ผลผลิตสูงครับ
แล้วถามว่าเกษตรกรทั่วไปของประเทศปลูกยางพันธุ์ดีไหม
อาจจะปลูกพันธุ์ดีแต่เป็นพันธุ์เก่าที่ปลูกกันมานานหลายสิบปี ไม่เปลี่ยนแปลงเลย อย่างพันธุ์ RRIM 600
ในอดีตเราเคยมีการเปลี่ยนพันธุ์ยางครั้งใหญ่มาแล้ว เมื่อก่อนปี 2500 ชาวสวนยางปลูกยางพาราดั้งเดิมกันทั้งเมืองซึ่งเป็นพันธุ์ยางที่ให้ผลผลิตต่ำได้น้ำยางไร่ละ 1 กก. เท่านั้น
จนเมื่อมีการออก พ.ร.บ.กองทุนสงเคราะห์การทำสวนยางปี 2506 โดยท่านจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัช ท่านเห็นการณ์ไกลว่าเกษตรกรปลูกยางพันธุ์เก่า ผลผลิตต่ำ จึงให้เกษตรกรปลูกยางพันธุ์ใหม่ ยางพันธุ์ดี ให้ผลผลิต 3 กก./ไร่ เพิ่มขึ้นจากพันธุ์เดิม 2 กก./ไร่
แต่ถามว่านับจากนั้นเป็นต้นมาเรามีการเปลี่ยนพันธุ์ยางปลูกกันหรือไม่ ก็ยังปลูกยางพันธุ์ RRIM 600 เป็นตัวหลักเหมือนเดิม...!!!
แต่ยางพันธุ์นี้มาเลเซียเขาห้ามปลูกแล้วเพราะผลผลิตต่ำ
ทั้งที่ปัจจุบันมีพันธุ์ยางที่ให้ผลผลิตสูงกว่าพันธุ์ 600 1-2 เท่าตัว ขึ้นไป
สวนยางพันธุ์ KT.311 อายุประมาณ 12 ปี ใน อ.ปะเหลียน จ.ตรัง ปัจจุบันสวนยางของผมทั้งหมดเปลี่ยนมาปลูกยางพันธุ์นี้ทั้งหมดแล้ว เพราะได้ผลผลิตสูงกว่าพันธุ์ RRIM 600 2 เท่า
|
ผมให้ข้อคิดง่ายๆ
ว่าถ้าเราปลูกยางพันธุ์ 600 ราคายางวันนี้ 80 บาท/กก. แต่ถ้าเราเปลี่ยนมาปลูกยางพันธุ์ที่ให้ผลผลิตสูงกว่าพันธุ์ 600 1-2 เท่าตัว
เท่ากับเราจะได้เงินเพิ่มอีกอย่างน้อย 80 บาท เป็น 160 บาท
ตัวอย่างพันธุ์ยางที่ผมปลูก คือ K.T 311 พันธุ์ยางของผมเอง
เมื่อก่อนผมก็ปลูกยางหลายพันธุ์ พันธุ์ไหนดีก็เอามาปลูก
แต่ปัจจุบันผมเปลี่ยนมาปลูก K.T 311 หมดแล้ว
เพราะมันให้ผลผลิตสูงกว่าพันธุ์ 600 อย่างน้อยๆ
เลย 1 เท่า
แต่ที่สวนผมและเกษตรกรนำไปปลูกที่เมืองเลย พิสูจน์แล้วให้ผลผลิตสูงกว่า 600 ถึง 2 เท่าตัว
ที่เหนือไปกว่านั้นยาง K.T 311 ใช้เวลาปลูกเพียงแค่ 5 ปี เท่านั้น ก็กรีดได้และทนต่อโรคไฟทอปเธอร่า ต่างกับ RRIM 600 ต้องใช้เวลา 7 ปี
ถ้าเรากรีดยางได้เร็วกว่า 2 ปี น้ำยางที่ได้ เงินที่ได้รับเป็นเงินเท่าไหร่ ซึ่งที่ผ่านการพิสูจน์มาแล้วในเมืองไทยกว่า 30 ปี ว่าเป็นอย่างนี้จริงๆ
ถ้าจะเอาตัวเลขให้เห็นกันชัดๆ วันนี้ยางพันธุ์ 600 ให้ผลผลิต 250 กก./ไร่/ปี แต่ยางพันธุ์ K.T 311 ให้น้ำยาง 500 กก./ไร่/ปี ถ้าราคายางกิโลละ 80 บาท เราจะได้เงินเพิ่มจากการปลูกยาง K.T 311 มากกว่าพันธุ์ 600 ประมาณ 40,000 บาท/ไร่/ปี
นี่แหละครับผมถึงบอกว่าผมไม่กลัวยางราคาตก
แต่ถ้าคิดว่าราคาพันธุ์ยาง K.T 311 มันสูงไป
ลงทุนไม่ไหว ผมก็ไม่ได้หวงอะไร เอาพันธุ์ไปขยายปลูกกันได้
แต่ผมขออย่างเดียวว่าห้ามนำไปจำหน่ายเชิงการค้าเพราะเป็นพันธุ์ที่ผมได้มายากและทำมาหลายสิบปี
แล้วคนที่นำไปทำขายก็ไม่รู้ว่าเป็นพันธุ์ที่ถูกต้องหรือไม่
เพราะที่ผ่านมาก็มีการกล่าวอ้างแอบขายโดยที่ผู้ขายไม่มีหลักแหล่งจำนวนมาก
ทางออกของปัญหาราคายางตามความเห็นของผมก็คือ ทำอย่างไรให้ยางเราได้ผลผลิตเพิ่ม ซึ่งการจะทำอย่างนั้นได้ต้องเริ่มกันที่พันธุกรรมพันธุ์ยาง เริ่มกันที่การปลูกยางพันธุ์ดี ให้ผลผลิตสูง ควบคู่กับกระบวนการจัดการสวนยางที่ดีเพื่อเพิ่มผลผลิต
สวนยางแปลงนี้เป็นญาติๆ ผมเอง เขาปลูกยาง RRIM 600
แต่ผมให้พันธุ์ KT.311 มาทดลองปลูก 2 แถว ปลูกพร้อมกัน ดินเหมือนกัน ดูแลเหมือนกัน แต่
311 โตกว่าอย่างเห็นได้ชัด ภาพที่ 2
คือขนาดของยาง KT.311 ภาพที่ 3 ขนาดของต้นยาง RRIM 600
|
ภาพที่ 2 ยางพันธุ์ KT.311 |
ภาพที่ 3 ยางพันธุ์ RRIM 600 |
previous article
บทความใหม่กว่า
ไม่มีความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น